.

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่น่าผิดหวังของสหรัฐซึ่งมีการรายงานเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นสิ่งยืนยันว่าเฟดยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

“ผมคิดว่าเฟดยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ผมมองว่า เฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปอีกเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพื่อรักษาทิศทางของเงินเฟ้อให้ปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน”

 

“อย่างไรก็ดี ผมยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ที่ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้” นายวอลเลอร์กล่าว

 

ทั้งนี้ นายวอลเลอร์กล่าวว่า การที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงจนทำให้เฟดมั่นใจได้นั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เฟดจะจับตาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ เพื่อประเมินว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในทิศทางใด

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายวอลเลอร์ได้ออกมาแสดงความเห็นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ตามคาด ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจำนวน 3 ครั้งในปี 2567

 

อย่างไรก็ดี ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐในปีนี้ได้นำไปสู่การตั้งคำถามว่า เฟดจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่

 

ตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (29 มี.ค.) โดยดัชนี PCE เป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์