.

นางลาเอล เบรนาร์ด รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันจันทร์ (14 พ.ย.) ว่า “ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้”

 

การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดไม่ได้หมายความว่า เฟดจะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่จะลดขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีการปรับขึ้นในอัตรา 0.75% ไปแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่เฟดเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการกำหนดนโยบายการเงินในปี 2533

 

“ดิฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องย้ำก็คือว่า เฟดได้ดำเนินการไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีภารกิจที่จะต้องทำอีกในอนาคต ทั้งในด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%” นางเบรนาร์ดกล่าว

 

การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดกว่า 3 เท่า

 

“เราได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วมาก และเราได้ปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ซึ่งคุณสามารถเห็นผลลัพธ์เหล่านี้ในสภาวะทางการเงินและการคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ สำหรับดิฉันแล้ว คงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่เราจะพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย” นางเบรนาร์ดกล่าว

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ดีดตัวขึ้นในช่วงแรกของวันจันทร์ ก่อนที่ตลาดจะร่วงลงในเวลาต่อมา เมื่อนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดจะไม่ผ่อนคลายมาตรการต่อสู้กับเงินเฟ้อ แม้ว่าเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวมาจากข้อมูลเพียงชุดเดียว และเฟดจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลในวงกว้างเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างแท้จริง

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์